เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว ประธานบริหารมูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว พร้อมด้วย นายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าเชียงราย นายเรืองชัย จิตรสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โตโยต้า เชียงรายและโตโยต้า พะเยา นางสาวชญานุท เหล่ารุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวียนต์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กรรมการผู้จัดการโรงเรียนอีคิวเซ็นเตอร์ ผู้ก่อตั้ง Wealth Solution Network ฝ่ายขายอาคารพาณิชย์ตลาดล้านเมือง และสมาชิก “กลุ่มรักเชียงรายไร้หมอกควัน” เข้าพบกับทาง นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อนำหนังสือ “กู้ดบายเชียงรายหมอกควัน” จำนวน 9,000 เล่ม
โดยนายชัชวาลย์ กล่าวว่า การที่กลุ่มรักเชียงรายไร้หมอกควัน จัดทำหนังสือ “กู้ดบายเชียงรายหมอกควัน” เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อชาวจังหวัดเชียงราย และผู้ที่ได้อ่านหนังสือดังกล่าว เพราะเนื้อหาด้านในจะเขียนถึงเรื่องปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าเกิดมาได้อย่างไร ใครเป็นคนทำ และ แนวทางป้องกัน ทั้งเรื่องการเกิดไฟป่า การดูแลสุขภาพ และผลกระทบระยะยาว ดังนั้นจึงได้ใช้ชื่อหนังสือว่า “กู้ดบายเชียงรายหมอกควัน” ซึ่งเชื่อว่าหนังสือดังกล่าวจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ที่ทางภาคเอกชนมีความตั้งใจที่จะให้เชียงราย ต้องไม่มีหมอกควันไฟป่า
ทางด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า วันนี้รู้สึกขอบคุณทางภาคเอกชนที่ได้เล็งเห็นความสำคัญจุดนี้อย่างมาก เพราะเมื่อเกิดหมอกควันไฟป่าแล้วจะเป็นปัญหาที่กระทบทุกคน และกระทบทุกอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ สุขภาพของประชาชน และสำคัญที่สุดคือเรื่องธรรมชาติที่ถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ซึ่งทาง “กลุ่มรักเชียงรายไร้หมอกควัน” ถือว่ามาถูกทางแล้ว ที่จะช่วยสนับสนุนทางภาครัฐในการแก้ปัญหาจุดนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถือว่าได้สัมผัสปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง และการเกิดหมอกควัน ไฟป่า ส่วนใหญ่มาจากการที่คนไปจุดขึ้นมาทั้งสิ้น ดังนั้นทางจังหวัดจึงมีรณรงค์ปัญหานี้ตั้งแต่ไม่เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง และตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นไป ได้ขอความร่วมมือชาวบ้านไม่เผาป่า โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกตรวจ จากนั้นในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะประกาศห้ามมีการเข้าป่าเด็ดขาด หากพบหรือฝ่าฝืนก็จะจับกุมดำเนินคดี เพราะปัญหาหมอกควัน เริ่มมาจากคนเผาป่า เพื่อหาของป่า
นายประจญ กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมาต้องมีจิตอาสาดับไฟป่า เสียชีวิตจากการเข้าไปดับไฟป่าถึง 2 คน ทั้งที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอพาน ดังนั้นปีนี้จะต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด และไฟป่าจะต้องไม่เกิดขึ้นเช่นกัน ที่ผ่านมาได้ปล่อยจิตอาสาเฝ้าระวังไฟป่าไปกว่า 100,000 คน เพื่อลงทุกหมู่บ้าน ที่จะเริ่มกระบวนการ นั้นคือพบกลุ่มควันเข้าไปดับ ทั้งในหมู่บ้าน และกลางทุ่งนา รวมไปถึงทุกครัวเรือน หากเผาก็จะดับและแนะนำชาวบ้านงดการเผาเด็ดขาด เพราะยิ่งเผาก็จะสะสมควัน หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ขณะนี้เตรียมที่จะร่วมกับภาคเอกชน โดยทางหอการค้าจังหวัดเชียงราย จัดคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อระดมทุนในการที่จะนำมาใช้ในการดับไฟป่า แก้ปัญหาหมอกควัน เพราะจิตอาสาทุกคนที่ลงพื้นที่ไปก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และที่ผ่านมาออกเงินเองทั้งหมด ดังนั้นปีนี้จึงจะมีงบประมาณก้อนนี้เข้าไปสนับสนุนอีกทางหนึ่ง” นายประจญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จากเครื่องตรวจวัดอัตโนมัติ ตัวเมืองเชียงราย มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับปานกลาง วัดได้ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อำเภอแม่สาย มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับปานกลาง วัดได้ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร.
