ยูโอบี ปลุกวงการศิลปะในยุค New Normal ชวนศิลปินไทยสร้างสรรค์ผลงาน
ชู “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” ส่งประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11
เชื่อมโยงศิลปินไทยสู่โอกาสในวงการศิลปะระดับโลก
พร้อมเชื่อมโลกศิลปะสู่ชุมชนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (ธนาคารยูโอบี (ไทย) สนับสนุนวงการศิลปะและศิลปินไทยอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 เวทีการประกวดงานจิตรกรรมเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ต่อยอดสู่การประกวดในระดับภูมิภาค เชิญชวนศิลปินมื่ออาชีพและศิลปินสมัครเล่นสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวดผ่านระบบออนไลน์ (e-submission) ในหัวข้อ “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ” ( Solidarity)นับเป็นครั้งแรกของการจัดการประกวดจิตรกรรมยูโอบีที่มีการกำหนดหัวข้อของการประกวด สะท้อนถึงช่วงเวลาที่ทุกคนในสังคมได้ก้าวผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วยพลังบวกและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
การประกวดจิตรกรรมยูโอบี (UOB Painting of the Year) นับเป็นการประกวดงานศิลปะที่ยาวนานที่สุดในประเทศสิงคโปร์และเป็นหนึ่งในการประกวดจิตรกรรมที่ทรงเกียรติที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ธนาคารยูโอบีมุ่งให้การสนับสนุนและค้นพบศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะอันทรงคุณค่าในภูมิภาคอาเซียน
นายสัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและสนับสนุนธุรกิจธนาคาร ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า “ศิลปะคือความงดงามที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ นำมาซึ่งพลังบวกและความหวัง ซึ่งมีอิทธิพลต่อจิตใจของพวกเราทุกคนอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม เศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้แต่วงการศิลปะเกิดเป็นความไม่แน่นอนในซีวิตและความหดหู่ในจิตใจ เราเชื่อว่าการประกวดจิตรกรรมยูโอบีในปีนี้จะได้เห็นผลงานสร้างสรรค์ที่เป็นพลังบวกและสื่อถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้คนในสังคมของศิลปินจากทั่วประเทศที่ส่งผลงานเข้าประกวดผ่านทางออนไลน์”
สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวด สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2563 โดยจะมีงานประกาศผลรางวัล ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ www.uob.co.th/poy
ศิลปินไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 จะเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคร่วมกับศิลปินที่ชนะเลิศจากประเทศอินโดนีเซีย
มาเลเซีย และสิงคโปร์ต่อไป พร้อมโอกาสได้เสริมสร้างประสบการณ์ผ่านโครงการศิลปินในพำนัก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 เดือน.